วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553


Classical Guitar
กีตาร์เป็นเครื่องสายประเภทดีด มีต้นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง กีตาร์เริ่มเป็น ที่รู้จักในประเทศสเปนเมื่อราวศตวรรษที่16 มีทั้งชนิด 6 สายที่เรียกว่า Vihuela, ชนิด 4 สายที่เรียกว่า Guitarra และชนิด 5 สายที่เรียกว่า Guitarra Espanola กีตาร์เริ่มแพร่หลายเข้าสู่ดินแดนอื่นๆ ในยุโรปในช่วง ปลายศตวรรษที่ 17 ในราชสำนักฝรั่งเศส เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่18 กีตาร์กลับมามี บทบาทในสังคมดนตรีตะวันตกอีกครั้ง หลังจากเสื่อมความนิยมไปชั่วขณะ ในยุค Baroque นั้น ลูท (Lute) เป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากกว่า ในยุค Baroque มีบทประพันธ์สำหรับกีตาร์เป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับลูท บทประพันธ์ของกีตาร์สมัยนั้นมักเป็นแค่ส่วนประกอบของการร้องเพลงเท่านั้น ต่อมาในยุคคลาสสิกมีการพัฒนารูปร่างกีตาร์ให้ดีขึ้น เอวของกีตาร์จะแคบขึ้นมี (Fret) จาก 10 เป็น 18 เฟรท ด้านข้างและด้านหลังของกีตาร์ทำด้วยไม้ Rosewood แทนที่จะเป็นไม้ Spruce อย่างเดิม รวมทั้งเปลี่ยนจากสายคู่ 5 สายมาเป็นสายเดี่ยว 6 สาย ส่วนขนาดนั้นยังคงใกล้เคียงกับสมัย Baroque กีตาร์ได้รับความสนใจมากขึ้น มีนักกีตาร์ที่มีฝีมือดีเยี่ยมและมีบทประพันธ์ทางด้านกีตาร์มากขึ้น ทั้งรูปแบบ Guitar Solo, Guitar Ensemble, Chamber Music, Guitar Concerto และอื่นๆ อีกมาก กีตาร์ในยุคคลาสสิกมีขนาดเล็กกว่าในปัจจุบัน มีเสียงเบากว่ารวมทั้งมีสายกีตาร์และเฟรทแคบกว่า ทำให้เหมาะกับเทคนิคการเล่นของมือซ้ายและเล่นง่ายกว่ากีตาร์ในปัจจุบัน แต่บางครั้งเมื่อนำบทประพันธ์ในยุคคลาสสิกมาเล่นกับกีตาร์ในปัจจุบันจะพบปัญหานิ้วเอื้อมไม่ถึงเฟรทที่ต้องการ วิธีแก้ปัญหาคือต้องหากีตาร์ที่มีขนาดเล็กลงหรือเปลี่ยนแปลงนิ้วมือบางตำแหน่ง นักประพันธ์และนักกีตาร์ในสมัยคลาสสิก มักจะเป็นคน ๆ เดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น